6 ครีมแต้มสิว รุ่นไหนดี อัพเดทล่าสุดปี 2567

สายช้อปทั้งหลายกำเงินในมือแน่นๆ แล้วไปเตรียมช้อปกันเล้ยย สุดคุ้ม ดีลที่ดีที่สุดมาแล้ว ช้อปเพลินๆ สินค้าลดราคา สูงสุดและคูปองลดมากมาย ดีลสุดพิเศษ
ราคาพิเศษมาแนะนำลูกค้าที่น่ารัก ราคาที่ไม่แพง เราขอแนะนำ ครีมแต้มสิว  สินค้าทางอินเตอร์เน็ต  ราคาถูกที่สุดเท่าที่เคยได้ยินมา สั่ง ครีมแต้มสิว  ไป ราคาถูกจนไม่น่าเชื่อ สินค้าใส่ซองกันกระแทกมาตอนจัดส่งให้ด้วย ส่งเร็วทันใจ คุณภาพเยี่ยมพอดีเห็น ราคาน่าจะลดลง สินค้าดีๆ ราคาถุก จัดส่งรวดเร็ว คุณภาพเยี่ยม ได้รับสินค้าแล้วดีใจมาก ตรงตามต้องการในรุป ไม่มีปัญหา

     
หากคุณกำลังมองหาครีมแต้มสิวพร้อมฟังก์ชั่นการใช้งานที่ตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์ได้หลากหลาย เราขอแนะนำให้รู้จักกับนวัตกรรมครีมแต้มสิวชั้นเลิศจากแบรนด์ผู้ผลิตที่คร่ำวอดอยู่ในวงการ โดยแต่ละชนิดมีทั้งแบบ ครีมแต้มสิว ซึ่งวันนี้ทางเราจึงจัดอันดับ แนะนำ ครีมแต้มสิว ที่ตอบโจทย์กับตัวคุณมาให้เลือกกันแล้วดังนี้

“สิว” เป็นปัญหาผิวหน้าที่ใครหลายคนเผชิญ ไม่ว่าจะอยู่ในช่วงวัยรุ่นหรือวัยผู้ใหญ่ก็ตาม คนส่วนใหญ่มักจะเลือกเข้ารับการดูแลรักษาปัญหาสิวกับแพทย์ผิวหนังที่มีความชำนาญ แต่ในบางครั้งหากเป็นปัญหาสิวที่ไม่ร้ายแรงมากหรือลุกลามทั่วใบหน้า การใช้ผลิตภัณฑ์ดูแลผิวอย่าง เช่น “ครีมแต้มสิว” ก็เป็นวิธีหนึ่งที่จะช่วยบรรเทาให้สิวนั้นยุบจางหายลงไปได้


ครีมแต้มสิวที่วางขายโดยทั่วไปนั้นมีหลากหลายยี่ห้อ ซึ่งแต่ละยี่ห้อก็มีการใช้ส่วนผสมที่ช่วยดูแลเรื่องสิวที่ต่างกันออกไป แล้วเราควรจะเลือกอย่างไรถึงจะเหมาะกับตัวเองดี ? วันนี้เราจะมาแนะนำทั้งวิธีการเลือกครีมแต้มสิวและ 10 อันดับสินค้าที่ได้รับความนิยม โดยการันตีด้วยยอดขายและคะแนนรีวิวเพื่อให้คุณพิจารณาเลือกซื้อครีมแต้มสิวได้ตรงใจคุณมากขึ้นค่ะ

หลายคนคงยังไม่รู้ว่า การเลือกซื้อครีมแต้มสิวนั้นมีปัจจัยใดบ้างที่ต้องพิจารณา และควรจะเลือกอย่างไรให้เหมาะกับปัญหาสิว หรือสภาพผิวหน้าที่เรากำลังเผชิญ ถ้าพร้อมแล้วเรามาหาคำตอบพร้อมกันเลยค่ะ !

ปัญหาสิวบางชนิดนั้นมีสาเหตุมาจากแบคทีเรียที่ชื่อว่า P. acne ซึ่งก่อให้เกิดการอักเสบขึ้นบนผิวหน้า นอกจากเชื้อแบคทีเรียแล้ว ยังมีเชื้อราบางชนิดที่ก่อปัญหาดังกล่าวได้เช่นกัน ดังนั้น วิธีการเลือกครีมสำหรับสิวประเภทนี้ คือ เลือกผลิตภัณฑ์ที่มีสารฆ่าเชื้อแบคทีเรียหรือเชื้อรา อันได้แก่ Isopropyl Methylphenol, Sulfur, Triclosan และ Resorcinol เป็นต้น


นอกจากนี้ ยังมีส่วนผสมจากธรรมชาติหลายชนิดที่สามารถยับยั้งการเจริญเติบโตของเชื้อแบคทีเรียได้ เช่น Tea Tree Oil หรือสารสกัดจากมังคุด ดังนั้น ควรตรวจดูส่วนประกอบที่ระบุบนฉลากบรรจุภัณฑ์ก่อนจะเลือกซื้อครีมแต้มสิวทุกครั้ง


อีกหนึ่งสาเหตุที่ทำให้ปัญหาสิวรุนแรงขึ้น คือ ความมันส่วนเกินบนใบหน้าไปอุดตันในรูขุมขนจนส่งผลทำให้เกิดแบคทีเรียขึ้นมา ซึ่งก่อให้เกิดปัญหาสิวอักเสบตามมา การเลือกใช้ผลิตภัณฑ์อย่าง “ครีมแต้มสิว” จึงเป็นการรักษาที่จะช่วยแก้ปัญหาสิวได้ดีอีกทางหนึ่งค่ะ

สิวอักเสบที่มีลักษณะเป็นตุ่มแดง มักจะเกิดจากการอุดตันของทั้งความมันส่วนเกินและการสะสมตัวของเชื้อแบคทีเรียในรูขุมขน จึงก่อให้เกิดการอักเสบตามมา หากใครที่เผชิญกับสิวชนิดนี้ สิ่งแรกที่คุณควรทำก็คือ การบรรเทาอาการอักเสบ


ดังนั้น คุณควรจะมองหาครีมแต้มสิวที่มีส่วนผสมช่วยลดการอักเสบ เช่น Ibuprofen Piconol, Allatonin และ Dipotassium Glycyrrhizinate

สิวในวัยรุ่นส่วนใหญ่เกิดจากความมันส่วนเกินที่ถูกผลิตจากต่อมไขมันบนใบหน้า ดังนั้น วิธีการที่จะจัดการกับปัญหาสิวชนิดได้อย่างเห็นผล คือ การกำจัดความมันส่วนเกิน โดยเลือกใช้ครีมแต้มสิวที่มีส่วนผสมในการช่วยทำให้ผิวหนังชั้นขี้ไคล (Stratum Corneum) มีความอ่อนนุ่มชุ่มชื้นมากขึ้น ทำให้ช่วยสลายความมันส่วนเกินได้ดียิ่งขึ้น ซึ่งส่วนผสมที่ช่วยได้ คือ กำมะถัน (Sulfur) นั่นเอง


แต่สำหรับสิวในกลุ่มผู้ใหญ่ที่มักจะไม่ได้เกิดจากความมันส่วนเกิน ไม่ควรใช้ครีมแต้มสิวที่มีส่วนผสมลดความมันบนใบหน้า เพราะจะทำให้ผิวเกิดความแห้งจนเกินไปค่ะ

สาเหตุหลักของการเกิดสิวในวัยผู้ใหญ่ คือ เกิดจากความแห้งกร้าน ดังนั้น การให้ความชุ่มชื้นที่เพียงพอแก่ผิวจึงเป็นวิธีการหนึ่งที่จะจัดการกับปัญหาสิวชนิดนี้ได้ คุณจึงควรเลือกครีมแต้มสิวที่มีส่วนผสมที่ให้ความชุ่มชื้น


Glycerin เป็นส่วนผสมให้ความชุ่มชื้นที่มีประสิทธิภาพสูง โดยสารชนิดนี้จะสามารถดูดความชื้นภายนอกเข้ามาเก็บในผิวชั้นในของเราได้ นอกจากนี้ ควรเลือกครีมแต้มสิวที่ไม่มีส่วนผสมของแอลกอฮอล์ เพราะจะทำให้น้ำในผิวสลายไป ซึ่งจะไปทำให้ผิวแห้งกร้านขึ้นไปอีกและอาจลอกเป็นขุยได้

ครีมแต้มสิวบางยี่ห้อจะมีส่วนผสมของสเตียรอยด์ (Steroids) ซึ่งมีประสิทธิภาพในการต้านการอักเสบ และสามารถบรรเทาอาการบวมเต่งของสิวได้เป็นอย่างดี หากใครที่มีปัญหาสิวอักเสบที่มีลักษณะเป็นหัวหนองขึ้น หลังจากที่ผ่านการเป็นตุ่มแดง ๆ มาก่อน ครีมแต้มสิวชนิดนี้จะช่วยให้หัวหนองยุบลงได้ค่ะ


ทั้งนี้ ผลิตภัณฑ์ใด ๆ ที่มีส่วนผสมของสเตียรอยด์นั้น ควรใช้อย่างระมัดระวังทั้งในเรื่องของปริมาณและวิธีการใช้ อีกทั้งยังไม่เหมาะกับการใช้ติดต่อกันเป็นระยะเวลายาวนาน เพราะอาจจะทำให้เกิดปัญหาผิวติดสเตียรอยด์ตามมาได้ โดยระยะเวลาที่เหมาะสมในการใช้ติดต่อกัน คือ เพียง 1 - 3 วันเท่านั้นค่ะ

สิ่งสำคัญอีกประการที่ต้องพิจารณา คือ ความรู้สึกในขณะใช้งาน ควรหลีกเลี่ยงครีมแต้มสิวที่มีเนื้อสัมผัสหนา จนทำให้รู้สึกเหนียวหน้าในขณะที่ทา รวมไปถึงครีมแต้มสิวที่มีสารเคมีรุนแรงจนทำให้รู้สึกแสบหน้า


กลิ่นของครีมแต้มสิวก็เป็นอีกปัจจัยที่ต้องคำนึงถึงด้วยเช่นกัน หากคุณต้องใช้ครีมแต้มสิวบริเวณที่ใกล้กับจมูก ควรเลือกผลิตภัณฑ์ที่ไม่มีกลิ่นสารเคมีรุนแรงหรือกลิ่นน้ำหอม ซึ่งครีมแต้มสิวที่มีกำมะถันมักจะมีกลิ่นเฉพาะที่ค่อนข้างฉุน จึงไม่เหมาะกับคนที่แพ้กลิ่นฉุนหรือเป็นโรคภูมิแพ้ค่ะ

หลังจากที่เราได้นำวิธีการเลือกครีมแต้มสิวมาฝากตามข้างต้นแล้ว มาดูกันดีกว่าค่ะว่าสุดยอดครีมแต้มสิว 10 อันดับที่คนนิยมเลือกซื้อมาใช้นั้นจะมียี่ห้อไหนกันบ้าง

เจลแต้มสิวตัวนี้เน้นใช้ส่วนผสมที่ช่วยลดความมันส่วนเกินและมีสารฆ่าเชื้อแบคทีเรียที่ก่อให้เกิดสิว นอกจากจะช่วยกำจัดสิวได้อย่างประสิทธิภาพแล้ว ยังมีสารบำรุงที่ช่วยให้ผิวชุ่มชื้นด้วยนะคะ เสียงจากผู้ใช้ส่วนใหญ่บอกว่าชื่นชอบ เพราะเป็นเจลแต้มสิวที่แห้งและไม่ทิ้งความเหนียวไว้บนใบหน้า แถมหลายคนให้ความเห็นตรงกันว่า สามารถช่วยให้สิวอักเสบที่เป็นหัวหนองเล็ก ๆ ยุบลงได้ แต่ก็จุดด้อยในเรื่องของกลิ่นที่ค่อนข้างฉุน และใช้แล้วแสบหน้าในบางคน เพราะมีส่วนผสมของแอลกอฮอล์ ดังนั้น ใครที่มีผิวบอบบาง ควรตรวจสอบส่วนผสมให้ดีก่อนเลือกซื้อนะคะ

เจลแต้มสิวตัวนี้ได้รับความนิยมมาระยะหนึ่งหลังจากที่ได้วางขายใน 7-11 ซึ่งจุดเด่นที่ทำให้ผู้ใช้ส่วนใหญ่เลือกซื้อ คือ การใช้สารสกัดธรรมชาติจากดอกดาวเรือง ที่มีคุณสมบัติต้านการอักเสบและป้องกันการติดเชื้อไม่ให้ลุกลาม ช่วยขจัดเซลล์ผิวหมองคล้ำ แถมยังสามารถสมานรอยแผลที่เกิดจากสิวอักเสบได้อีกด้วย เรียกว่าช่วยกู้ผิวจากสิวได้อย่างชะงักเลยล่ะค่ะ หลายคนลงคะแนนบวกให้กับเนื้อสัมผัสที่เป็นเจลบางเบา แห้งเร็ว ไม่ทิ้งความเหนียวไว้บนหน้า แต่อาจจะไม่เหมาะกับคนที่มีผิวแห้ง เพราะบางคนที่ใช้แล้วรู้สึกว่าทำให้ผิวแห้งมากจนเกินไปค่ะ

ครีมแต้มสิวนี้เป็นสูตรที่ทางโรงพยาบาลยันฮีคิดค้นขึ้นมาเพื่อแก้ไขปัญหาสิวอย่างรอบด้าน ไม่ว่าจะเป็นสิวอักเสบ สิวอุดตันและสิวผด จึงวางใจได้ว่าส่วนผสมที่ใช้นั้นปลอดภัยต่อผิวอย่างแน่นอน เพราะเป็นสูตรที่อ่อนโยนและไม่ทำร้ายผิว ซึ่งผลิตภัณฑ์ตัวนี้ได้รับความนิยมในไทยมายาวนาน แถมยังมียอดขายติดอันดับในเมืองนอกด้วยเช่นกัน ผู้ใช้หลายคนการันตีว่าเห็นผลในเรื่องของสิวที่ยุบลง โดยเฉพาะสิวอุดตันที่มักจะหลุดออกได้ยาก ทั้งยังมีราคาที่ไม่สูงเกินไป ทางแบรนด์ยังเคลมไว้ว่า แม้จะหยุดใช้หลังจากสิวหายแล้ว ก็ไม่มีเกิดผลข้างเคียงด้วยค่ะ

เชื่อว่าหลายคนต้องคุ้นเคยกับแบรนด์นี้อย่างแน่นอน เพราะดร.สมชายเป็นแบรนด์สกินแคร์ดูแลเรื่องสิวที่มียอดขายโดดเด่น เช่นเดียวกับเจลแต้มสิวตัวนี้ที่คนส่วนใหญ่ลงคะแนนให้ เพราะชื่นชอบในประสิทธิภาพการจัดการกับสิวอักเสบและสิวหัวหนอง ช่วยให้สิวยุบและแห้งไว เรียกได้ว่าเป็นสูตรกู้ผิวหน้าอย่างเร่งด่วนเลยค่ะ อีกทั้งยังมีเนื้อสัมผัสที่บางเบา ไม่ทิ้งความเหนียวไว้บนใบหน้า ดังนั้น ใครที่กำลังมองหาเจลแต้มสิวไว้ใช้ในระหว่างวัน แต่ติดปัญหาเรื่องเครื่องสำอางก็สามารถใช้ได้เช่นกัน เพราะไม่ทำให้เมคอัพของคุณเป็นคราบอย่างแน่นอน

อีกหนึ่งแบรนด์ดังด้านสกินแคร์ที่ช่วยดูแลเรื่องสิว ซึ่งเจลสูตรนี้มีการใช้ส่วนผสมหลายชนิดที่มีประสิทธิภาพในการจัดการกับสิวอักเสบ ลดการสะสมของเชื้อแบคทีเรียที่เป็นสาเหตุของสิวและยังช่วยกำจัดความมันส่วนเกินที่อุดตันบนผิว โดยไม่ก่อให้เกิดการระคายเคืองอีกด้วย นอกจากนี้ ยังให้ความชุ่มชื้นเพื่อไม่ให้ผิวบริเวณที่ใช้นั้นเกิดความแห้งหรือลอกเป็นขุยได้ ซึ่งผู้ใช้จริงส่วนใหญ่ต่างก็บอกว่า เห็นผลดีเยี่ยมในเรื่องของสิวอักเสบที่ยุบลงภายในระยะเวลาอันรวดเร็ว อีกทั้งยังมีเนื้อสัมผัสที่บางเบาและแห้งเร็วด้วยค่ะ

สำหรับเจลแต้มสิวรุ่นนี้ มีการใช้ส่วนผสมของสารเปปไทด์อย่าง Oilgopeptied-10 ที่สามารถเข้าจัดการกับแบคทีเรียที่เป็นสาเหตุของการเกิดสิวได้อย่างดีเยี่ยม อีกทั้งยังมีส่วนผสมของวิตามินบี 3 ที่ช่วยลดเลือนรอยแผลจากการเกิดสิวไปพร้อมกัน นอกจากนี้ ยังมีส่วนประกอบที่ให้ความชุ่มชื้นอย่างอโลเวราและใบบัวบก ที่ช่วยลดการระคายเคืองผิวได้อีกด้วย จุดเด่นที่ทำให้เจลแต้มสิวตัวนี้ได้รับคะแนนรีวิวสูง คือ เนื้อเจลมีความบางเบา แห้งไวไม่ทำให้เหนียวหน้า สามารถทาเครื่องสำอางทับได้สบาย ที่สำคัญ เน้นสารธรรมชาติที่อ่อนโยนจึงแต้มได้บ่อยตามต้องการค่ะ

ครีมแต้มสิวตัวนี้มียอดขายติดอันดับมาอย่งต่อเนื่อง ซึ่งคุณสมบัติหลักที่ทำให้หลายคนเทใจให้ คือ มีการใช้ส่วนผสมจากธรรมชาติของใบ Blackcurrant ผสานกับส่วนประกอบที่ช่วยลดสิวอุดตันได้ โดยครีมแต้มสิวรุ่นนี้เป็นแบบเข้มข้นที่สามารถทั้งกำจัดแบคทีเรียและความมันส่วนเกินที่เป็นสาเหตุสำคัญในการก่อให้เกิดสิว มีส่วนผสมที่จะเข้าไปปรับสมดุลในชั้นผิว เพื่อป้องกันไขมันอุดตันในรูขุมขน อีกหนึ่งเหตุผลที่ทำให้หลายคนรักครีมแต้มสิวตัวนี้ คือ ไม่มีส่วนผสมของน้ำหอมและแอลกอฮอล์ จึงทำให้สามารถใช้งานได้อย่างสบายใจ ไม่มีกลิ่นฉุนอีกด้วย

ผลิตภัณฑ์ครีมแต้มสิวที่โด่งดังในญี่ปุ่น แต่ก็ได้รับความนิยมในบรรดาคนไทยอยู่ไม่น้อย ด้วยส่วนผสมหลักที่ช่วยฆ่าเชื้อแบคทีเรียและต้านอาการอักเสบจากสิวได้อย่างดีเยี่ยม อีกทั้งยังช่วยบรรเทาอาการคันและบวมแดงของผิวที่เป็นสิวให้ทุเลาลง ไม่ทำให้เกิดรอยแดงหลังจากสิวหาย แถมยังช่วยคืนผิวหน้าที่อ่อนนุ่มกลับมาอีกด้วย ผู้ใช้จริงหลายคนเห็นผลในเรื่องของสิวอักเสบที่ยุบลงได้อย่างรวดเร็ว พร้อมทั้งชื่นชมเรื่องเนื้อสัมผัสที่แม้จะเป็นครีม แต่ก็สามารถเกลี่ยได้ง่ายค่ะ

ใครที่กำลังปวดหัวกับปัญหาสิวอุดตันที่ไม่สามารถยุบหายไปสักที ขอแนะนำครีมแต้มสิวตัวนี้เลยค่ะ เพราะผู้ใช้จริงส่วนใหญ่ต่างก็ยืนยันว่า ช่วยลดสิวอุดตันโดยเฉพาะบริเวณหน้าผากได้อย่างเห็นผล เนื่องจากใช้นวัตกรรม A.I. ซึ่งมีส่วนผสมที่สามารถเข้าสลายสิ่งสกปรกอุดตันลึกในรูขุมขนและลดความมันส่วนเกินได้ พร้อมฟื้นฟูเซลล์ผิวให้กลับมามีสุขภาพดีอีกครั้ง หลายคนชื่นชอบที่ผลิตภัณฑ์นี้ไม่มีส่วนผสมของน้ำหอมและพาราเบน จึงใช้งานได้ดีกับทุกสภาพผิว ที่สำคัญ คือ ไม่ทำให้ผิวแห้งลอกหลังจากสิวหายด้วยค่ะ

ครีมหลอดนี้ต้องบอกว่าเป็นครีมแต้มสิวสุดคุ้มที่คนเป็นสิวไม่ควรพลาด เพราะมีคุณสมบัติในการดูแลผิวได้ถึง 7 ประการ มีจุดเด่นคือ การใช้ส่วนผสมนานาชนิดที่ช่วยแก้ไขปัญหาสิวได้อย่างรอบด้าน ไม่ว่าจะเป็นส่วนประกอบที่ช่วยฆ่าเชื้อแบคทีเรีย สารสกัดจากธรรมชาติที่ช่วยต้านการอักเสบของสิว รวมไปถึงส่วนผสมที่ช่วยลดโอกาสในการเกิดรอยแผลเป็นจากสิว อีกหนึ่งเหตุผลที่ทำให้หลายคนซื้อมาใช้ซ้ำ คือ ช่วยให้สิวแห้งไว ยุบเร็ว เนื้อครีมซึมไวจึงไม่ทำให้ผิวมัน แถมยังไม่ทำให้ผิวแห้งลอกหรือแสบผิวแม้จะใช้งานทุกวันก็ตาม

สิ่งที่คุณควรต้องรู้ก่อนใช้ครีมแต้มสิว คือ ใช้ครีมแต้มเฉพาะจุดที่เป็นสิวเท่านั้น และไม่ควรทาทั่วใบหน้า นอกจากนี้ คุณควรเปลี่ยนครีมแต้มสิว หากใช้ผลิตภัณฑ์นั้นเป็นระยะเวลานานกว่า 2 สัปดาห์แล้วยังไม่เห็นผลว่า สิวของคุณยุบหรือจางลงไป และหากปัญหาสิวยังไม่ดีขึ้นหรืออักเสบมากกว่าเดิม คุณควรไปเข้ารับการรักษากับแพทย์ผิวหนังที่มีความเชี่ยวชาญค่ะ


สำหรับหลายคนที่มีปัญหาผิวหนังบริเวณอักเสบ หรือที่เรียกว่า Malassezia Folliculitis ซึ่งมีลักษณะเป็นตุ่มคล้ายสิว โดยโรคผิวหนังอักเสบชนิดนี้จะมีสาเหตุมาจากเชื้อรา ดังนั้น การใช้ครีมแต้มสิวทั่วไปนั้นจะไม่เกิดผลใด ๆ ทางที่ดีที่สุด คือ การรักษากับแพทย์ผิวหนังโดยตรงค่ะ

เป็นอย่างไรกันบ้างคะ สำหรับวิธีการเลือกครีมแต้มสิว และ 10 อันดับยี่ห้อครีมแต้มสิวยอดฮิตที่เราได้รวบรวมมาให้คุณไว้พิจารณาเป็นไอเดียในวันนี้ หวังว่าบทความของเราจะช่วยให้คุณเลือกครีมแต้มสิวได้เหมาะกับปัญหาสิวที่คุณเผชิญอยู่และช่วยให้สิวของคุณนั้นยุบจางลง เพื่อสร้างความมั่นใจ พร้อมกู้คืนผิวสวย ๆ ให้กับคุณได้ดีขึ้น


การใช้ครีมแต้มสิวอาจจะเป็นวิธีหนึ่งที่ช่วยจัดการปัญหาสิวของคุณ แต่สิวบางชนิดก็เกิดจากสาเหตุอื่นที่คุณอาจจะสามารถแก้ได้เองได้อย่างง่ายดาย เช่น การรักษาาความสะอาดของผิวหน้า, ใช้ผลิตภัณฑ์บำรุงผิวที่เหมาะกับสภาพผิว, รับประทานอาหารที่มีประโยชน์, พักผ่อนให้เพียงพอ และดื่มน้ำในปริมาณที่ร่างกายต้องการ แต่ก็มีสิวอีกหลายประเภทที่อาจจะเกิดจากปัญหาภายในร่างกายของเราอย่าง เช่น ฮอร์โมนหรือการเจ็บป่วยจากอาการบางอย่าง ซึ่งมีเพียงแพทย์ผิวหนังผู้เชี่ยวชาญเท่านั้นที่จะรักษาสิวประเภทเหล่านี้ได้ค่ะ